Ron Mueck เป็นศิลปินร่วมสมัยระดับแถวหน้าคนหนึ่่งของโลก เกิดที่
เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียในครอบครัวนักประดิษฐ์ของเล่นเมื่อปี
1958 เขาทำงานสร้างหุ่นกระบอกให้รายการโทรทัศน์สำหรับเด็กเป็น
เวลาถึง 15 ปี ก่อนที่จะหันมารับงานทำสเปเชี่ยลเอฟเฟคให้กับ
ภาพยนตร์ เช่นเรื่อง Labyrinth(1986) ซึ่งนำแสดงโดยเดวิด โบวี่ และ
เจนนิเฟอร์ คอนเนลลี่(ซึ่งในสมัยนั้นยังสาวและสวยมากๆ) ต่อมา
Ron Mueck ย้ายมาก่อตั้งบริษัทรับสร้างแบบจำลองสำหรับใช้ในงาน
โฆษณาในกรุงลอนดอน เขาได้เก็บพวกหุ่นตุ๊กตาที่เขาเคยสร้าง
สำหรับงานโฆษณาเอาไว้มากมายเต็มบ้าน และเริ่มรู้สึกว่าหุ่นแต่ละตัว
นั้นมีลักษณะท่าทางที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าสนใจเกินกว่าที่จะ
สร้างขึ้น เพียงเพื่อใช้ถ่ายเป็นภาพสำหรับงานโฆษณาเพียงไม่ีกี่มุมซึ่ง
ถือว่าน่าเสียดายและเสียของเป็นอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงหันมาทำงาน
ด้านวิจิตศิลป์และปฏิมากรรมแบบศิลปินเต็มตัว ..ในต้นยุค90ซึ่งเขาก็
ยัง คงเกี่ยวข้องกับงานโฆษณานั้น เขาได้ถูกว่าจ้างให้สร้างหุ่นจำลอง
ที่ต้องการความเหมือนจริง ในระดับสูง ซึ่งเขาก็มานั่งคิดว่าควรจะใช้
วัสดุอะไรทำดี ปกติแล้วมักจะใช้วัสดุที่เรียกว่าลาเท็กซ์ แตในกรณีนี้่
เขาอยากได้อะไรอื่นที่มันมีความแข็งแรงและดูประณีตแนบเนียนกว่า
เดิม โชคดีที่วัน หนึ่งเขาเดินไปเห็นการตกแต่งเชิงสถาปัตยกรรมใน
ร้านบูติกแห่งหนึ่ง และสืบทราบว่าวัสดุที่มี ลักษณะธรรมชาติออกเป็น
สีชมพูที่ดูดีชิ้นนี้คือสิ่งที่เรียกว่า ไฟเบอร์กลาสเรซิ่น และนั่นก็เป็นจุด
เริ่มต้นของการสร้างงานปฏิมากรรมอันน่าขนลุกของเขาในเวลาต่อมา
ซึ่งผลงานเหล่านี้ล้วนแต่เป็นที่ต้องการของเหล่าแกลเลอรี่และ
พิพิธภัณฑ์ชั้นนำทั่วไป เรามาดูผลงานชิ้นเด่นๆของเขาที่จัดแสดงไว้ที่
พิพิธภัณฑ์ในนิวยอร์คกันดีกว่า...
เปิดประตูมาเจอแบบนี้ ถ้าเป็นของจริงละก็ตัวใครตัวมันนะ!!!
เดี๊ยนจะนอน แล้วพวกคุณมามุงดูทำไมเคอะ?
ต้องดูใกล้ๆ จะได้เห็นรายละเอียดชัดๆ
พี่ๆ ยืนอ่านอะไรเพลิน ระวังข้างหลังนะ !!
จุ๊ๆๆ ดูเงียบๆนะ เดี๋ยวน้าแกจะตื่น
สงสัยกำลังเล่นเก้าอี้ดนตรีกันนะ แต่ใครล่ะจะกล้าเข้าไปแย่งเก้าอี้กับคุณพี่เครายาวผู้นี้!!
น่าจะปั้นหุ่นเด็กวัยรุ่นคนนี้ให้้หน้าเหมือนมาริโอ เมาเร่อ แล้วเอามาตั้งในสยาม
แต่เมื่อมองจากมุมนี้แล้วก็คล้ายเหมือนกันนะ
ช่วยดูให้เป็นงานศิลปะด้วยนะครับ !
ห่มไปห่มมาก็เลยป่องกลางแบบนี้ล่ะจ้ะเด็กๆ
เกิดเป็นหญิง แท้จริงนั้นแสนลำบาก
แล้วหนูก็เกิดมาได้ด้วยประการฉะนี้
ใครก็ได้ช่วยมาตัดสายสะดือให้หนูที!!
ชาติปิทุกขัง ..การเกิดนั้นเป็นทุกข์
กำลังจะเริ่มตั้งไข่ นี่แหละที่มาของหน้าแอ๊บแบ๊วของแท้
รูปปั้นชิ้นนี้ชื่อ พิน็อคคิโอ เสร็จในปี 1996
ดูกันให้ชัดๆกับความพิเศษของไฟเบอกลาสเรซิ่นที่ดูแล้วเหมือนผิวคนจริงๆ
คงเผลอทำกระป๋องสีดำหกใส่ก็เลยออกมาแบบนี้
รูปนี้ไม่รู้จะบรรยายอย่างไรดี
นี่แหละคู่ต่อสู้ของสไปเดอร์แมนภาค4 ..มนูษย์จิงโจ้!
จ้องอยู่ได้ ผมอายนะเจ๊ !!
นี่ๆๆ.. ผู้ชายคนที่ใส่หมวกโ่น่นน่ะท่าทางจะปิ๊งฉันล่ะเธอ !!
ชราปิทุกขัง ..ความแก่ก็เป็นทุกข์..
มรณัมปิทุกขัง ..ความตายก็เป็นทุกข์.. ผลงานชิ้นนี้ชื่อ Dead Dad
ถ้าทำความดีเยอะๆ ตายแล้วก็จะเป็นเทวดาแบบนี้ละมั้ง?
ขอบคุณ : http://ripley.exteen.com/20071203/ron-mueck
ขอบคุณ : http://ripley.exteen.com/20071203/ron-mueck
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น